วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560


บันทึกการเรียนรู้ ครั้งที่ 4
วันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2560
เวลา 08.30 - 12.30 น.
____________________

ความรู้ที่ได้รับ
  • เนื้อหาการเรียน

ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ (ต่อ)
4.เด็กที่บกพร่องทางการพูดและภาษา หมายถึงเด็กที่มีความบกพร่องซึ่งเกิดจากการพูดผิดปกติ ในด้านความชัดเจนในการปรับปรุงแต่งระดับและคุณภาพของเสียง จังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด
เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูด

1.ความบกพร่องในด้านการปรุงเสียง (Articulator Disorders)
2.ความบกพร่องของจังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด (speech Flow Disorders)
3.ความบกพร่องของเสียงพูด (Voice Disorders)
เด็ดที่มีความบกพร่องทางภาษา
1.การพัฒนาการทางภาษาช้ากว่าวัย (Delayed Language)
2.ความผิดปกติทางการพูดและภาษาอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพที่สมอง โดยทั่วไปเรียกว่าDysphasia หรือ aphasia 
- Gerstmann’s syndrome
     - ไม่รู้ชื่อนิ้ว (finger agnosia)
     - ไม่รู้ซ้ายขวา (allochiria)
     - คำนวณไม่ได้ (acalculia)
     - เขียนไม่ได้ (agraphia)
     - อ่านไม่ออก (alexia
- ลักษณะของเด็กบกพร่องทางการพูดและภาษา
     - ในวัยทารกมักเงียบผิดธรรมชาติ ร้องไห้เบา ๆ และอ่อนแรง
     - ไม่อ้อแอ้ภายในอายุ 10 เดือน
     - ไม่พูดภายในอายุ 2 ขวบ
     - หลัง 3 ขวบแล้วภาษาพูดของเด็กก็ยังฟังเข้าใจยาก
     - ออกเสียงตัวสะกดไม่ได้
     - หลัง 5 ขวบ เด็กยังคงใช้ภาษาที่เป็นประโยคไม่สมบูรณ์ในระดับประถมศึกษา
     - มีปัญหาในการสื่อความหมาย พูดตะกุกตะกัก
     - ใช้ท่าทางในการสื่อความหมาย

5.เด็กที่บกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
     - เด็กที่มีอวัยวะไม่สมส่วน
     - อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งหายไป
     - เจ็บป่วยเรื้อรังรุนแรง
     - มีปัญหาทางระบบประสาท
     - มีความลำบากในการเคลื่อนไหว
โรคลมชัก (Epilepsy) เป็นลักษณะอาการที่เกิดเนื่องมาจากความผิดปกติของระบบสมอง 
1.การชักในช่วงเวลาสั้น ๆ (Petit Mal)
2.การชักแบบรุนแรง (Grand Mal)
3.อาการชักแบบ (Partial Complex)
4.อาการไม่รู้สึกตัว (Focal Partial)
5.ลมบ้าหมู (Grand Mal) เมื่อเกิดอาการชักจะทำให้หมดสติ และหมดความรู้สึกในขณะชักกล้ามเนื้อเกร็งหรือแขนขากระตุก กัดฟัน กัดลิ้น
- การปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐานในกรณีเด็กมีอาการชัก
     - จับเด็กนอนตะแคงขวาบนพื้นราบที่ไม่มีของแข็ง
     - ไม่จับยึดตัวเด็กขณะชัก หาหมอนหรือสิ่งนุ่มๆรองศีรษ
     - ดูดน้ำลาย เสมหะ เศษอาหารออกจากปาก เพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง
     - จัดเสื้อผ้าเด็กให้หลวม ห้ามนำวัตถุใดๆใส่ในปาก
    - ทำการช่วยหายใจโดยวิธีการเป่าปากหากเด็กหยุดหายใจ
ซี.พี. (Cerebral Palsy)
     - การเป็นอัมพาตเนื่องจากระบบประสาทสมองพิการ ระหว่างคลอด หรือหลังคลอด
     - การเคลื่อนไหว การพูด พัฒนาการล่าช้า เด็กซีพี มีความบกพร่องที่เกิดจากส่วนต่าง ๆ ของสมองแตกต่างกัน
1.กลุ่มแข็งเกร็ง (spastic)
     - spastic hemiplegia อัมพาตครึ่งซีก
     - spastic diplegia อัมพาตครึ่งท่อนบน
     - spastic paraplegia อัมพาตครึ่งท่อนบน
     - spastic quadriplegia อัมพาตทั้งตัว
2.กลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเอง(athetoid,ataxia)
     - athetoid อาการขยุกขยิกช้า ๆ หรือเคลื่อนไหวเร็วๆที่เท้า แขน มือ หรือที่ใบหน้าของ เด็กบางรายอาจมีคอเอียง ปากเบี้ยวร่วมด้วย
     - ataxia มีความผิดปกติในการทรงตัวของร่างกาย กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน
3.กลุ่มอาการแบบผสม (Mixed)
กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Muscular Distrophy)
- เส้นประสาทสมองที่ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนนั้น ๆ เสื่อมสลายตัว
- เดินไม่ได้ นั่งไม่ได้ นอนอยู่กับที่
- พิการซ้อน ความจำแย่ลง สติปัญญาเสื่อม
โรคทางระบบกระดูกกล้ามเนื้อ (Orthopedic) ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการแต่กำเนิด เช่น เท้าปุก (Club Foot) กระดูกข้อสะโพกเคลื่อน อัมพาตครึ่งท่อนเนื่องจากกระดูกไขสันหลังส่วนล่างไม่ติด(Spina Bifida)
โปลิโอ (Poliomyelitis
     - กล้ามเนื้อลีบเล็ก แต่ไม่มีผลกระทบต่อสติปัญญา
     - ยืนไม่ได้ หรืออาจปรับสภาพให้ยืนเดินได้ด้วยอุปกรณ์เสริม
โรคกระดูกอ่อน(Osteogenesis Imperfeta) 
โรคศีรษะโต (Hydrocephalus)
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis)
โรคระบบทางเดินหายใจ
โรคเบาหวาน (Diabetes mellitus)
โรคหัวใจ (Cardiac Conditions)
โรคมะเร็ง (Cancer) 
เลือดไหลไม่หยุด (Hemophilia)
แขนขาด้วนแต่กำเนิด (Limb Deficiency)
- ลักษณะของเด็กบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
     - มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว
     - ท่าเดินคล้ายกรรไกร หกล้มบ่อย ๆ
     - เดินขากะเผลก หรืออึดอาดเชื่องช้า
     - ไอเสียงแห้งบ่อย ๆ หิวและกระหายน้าอย่างเกินกว่าเหตุ
     - มักบ่นเจ็บหน้าอก บ่นปวดหลัง
     - หน้าแดงง่าย มีสีเขียวจางบนแก้ม ริมฝีปากหรือปลายนิ้ว

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
  • สามารถนำเอาความรู้ที่จากการเรียนเด็กที่มีลักษณะทางความบกพร่องในแต่ละด้านไปช่วยเหลือเด็กในการปฐมพยาบาลได้อย่างถูกวิธี และมีความรู้ความเข้าใจในลักษณะสาเหตุ อาการ ของแต่ละความบกพร่องเป็นอย่างดี
การประเมินผล
  • ประเมินตนเอง  ตั้งใจเรียน ตอบคำถามอาจาย์และออกไปสาธิตหน้าชั้นเรียน
  • ประเมินเพื่อน  เพื่อนในห้องตั้งใจเรียน ช่วยกันตอบคำถามมีอาจารย์ถาม สนุกสนาน
  • ประเมินอาจารย์  อาจารย์มีการเตรียมความพร้อมในเนื้อหาบทเรียน และสื่อการสอนมาเป็นอย่างดี พร้อมยกตัวอย่างให้ดูเสมอ ยิ้มแย้มแจ่มใส












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น