บันทึกการเรียนรู้ ครั้งที่ 9
วันศุกร์ที่ 03 มีนาคม 2560
เวลา 08.30 - 12.30 น.
____________________
ความรู้ที่ได้รับ
- เนื้อหาการเรียน
6.เด็กที่บกพร่องทางการเรียนรู้ เรียกย่อ ๆ ว่า L.D. (Learning
Disability) เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้เฉพาะอย่าง ไม่นับรวมเด็กที่มีปัญหาเพียงเล็กน้อยทางการเรียน
เด็กที่มีปัญหาเนื่องจากความพิการ หรือความบกพร่องทางร่างกาย
- สาเหตุของ L.D.
- ความผิดปกติของการทำงานของสมองที่ไม่สามารถถอดรหัสตัวอักษรออกมาได้
(เชื่อมโยงภาพ ตัวอักษรเข้ากับเสียงไม่ได้)
- กรรมพันธุ์
1.ด้านการอ่าน (Reading Disorder)
- หนังสือช้า
ต้องสะกดทีละคำ
- อ่านออกเสียงไม่ชัด
ออกเสียงผิด หรืออาจข้ามคำที่อ่านไม่ได้ไปเลย
- ไม่เข้าใจเนื้อหาที่อ่าน
หรือจับใจความสำคัญไม่ได้
2.ด้านการเขียน (Writing Disorder)
- เขียนตัวหนังสือผิด
สับสนเรื่องการม้วนหัวอักษร เช่น จาก ม เป็น น หรือจาก ภ เป็น ถ เป็นต้น
- เขียนตามการออกเสียง เช่น
ประเภท เขียนเป็น ประเพด
- เขียนสลับ เช่น สถิติ
เขียนเป็น สติถิ
3.ด้านการคิดคำนวณ (Mathematic Disorder)
- ตัวเลขผิดลำดับ
- ไม่เข้าใจเรื่องการทดเลขหรือการยืมเลขเวลาทำการบวกหรือลบ
- ไม่เข้าหลักเลขหน่วย สิบ
ร้อย
- แก้โจทย์ปัญหาเลขไม่ได้
4.หลายๆ ด้านร่วมกัน
- อาการที่มักเกิดร่วมกับ L.D.
- แยกแยะขนาดสีและรูปร่างไม่ออก
- มีปัญหาความเข้าใจเกี่ยวกับเวลา
- เขียน/อ่านตัวอักษรสลับซ้าย-ขวา
- งุ่มง่ามการประสานงานของกล้ามเนื้อไม่ดี
- การประสานงานของสายตา-กล้ามเนื้อไม่ดี
- สมาธิไม่ดี (เด็ก LD ร้อยละ 15-20
มีสมาธิสั้น ADHD ร่วมด้วย)
- เขียนตามแบบไม่ค่อยได้
- ทำงานช้า
7.เด็กออทิสติก (Autistic) หรือ ออทิซึ่ม (Autism)เด็กที่ไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นไม่สามารถเข้าใจคำพูด
ความรู้สึกและความต้องการของผู้อื่น ไม่สามารถที่จะสื่อสารกับคนรอบข้างและสังคม เด็กออทิสติกแต่ละคนจะมีเอกลักษณ์ของตนเองติดตัวเด็กไปตลอดชีวิต "ไม่สบตา ไม่พาที ไม่ชี้นิ้ว"
- ทักษะภาษา
- ทักษะทางสังคม
- ทักษะการเคลื่อนไหว
- ทักษะการรับรู้เกี่ยวกับรูปทรง
ขนาดและพื้นที่
- ลักษณะของเด็กออทิสติก
- อยู่ในโลกของตนเอง
- ไม่เข้าไปหาใครเพื่อให้ปลอบใจ
- ไม่เข้าไปเล่นในกลุ่มเพื่อน
- ไม่ยอมพูด
- เคลื่อนไหวแบบซ้ำๆ
ออทิสติกเทียม
- ปล่อยให้เป็นพี่เลี้ยงดูแลหรืออยู่กับผู้สูงอายุ
- ปล่อยให้ลูกอยู่กับไอแพด
- ดูการ์ตูนในทีวี
- Autistic
Savant
- กลุ่มที่คิดด้วยภาพ (visual thinker)จะใช้การการคิดแบบอุปนัย (bottom up thinking)
- กลุ่มที่คิดโดยไม่ใช้ภาพ
(music, math and
memory thinker)จะใช้การคิดแบบนิรนัย (top down thinking)
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
- สามารถนำเอาความรู้ความเข้าใจที่เรียนไปปรับใช้ในการสอนเด็กอย่างถูกวิธี และสามารถให้คำปรึกษาผู้ปกครองในการดูแลเด็กออทิสติก
การประเมินผล
- ประเมินตนเอง ตั้งใจเรียน ตอบคำถามอาจาย์ ยิ้มแย้มแจ่มใส
- ประเมินเพื่อน เพื่อนในห้องตั้งใจเรียน แต่ก็มีบ่นว่าร้อนบ้าง
- ประเมินอาจารย์ อาจารย์มีการเตรียมความพร้อมในเนื้อหาบทเรียน และสื่อการสอนมาเป็นอย่างดี พร้อมยกตัวอย่างให้ ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่งกายสุภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น